แกรม ซูเนสส์ ตำนานของลิเวอร์พูล มองว่าสามประสานแนวรุกขาด โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ ไม่ได้ และไม่เข้าใจว่าทำไมทีมถึงไม่เสริมทัพในตำแหน่งศูนย์หน้า
ทัพ “หงส์แดง” ตกเป็นข่าวกับศูนย์หน้าฟอร์มแรงอย่าง ติโม แวร์เนอร์ มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ก่อนที่นักเตะจะย้ายไปอยู่กับ เชลซี ในท้ายที่สุด โดยมีหลายฝ่ายเชื่อว่าเรื่องการเงินคือปัญหาสำคัญที่ทำให้พวกเขาถอนตัวจากดีลดังกล่าว
ทางด้านตำนานของทีมอย่าง ซูเนสส์ ก็ได้มองถึงเรื่องการเสริมทีมในตำแหน่งดังกล่าว และฟอร์มการเล่นในเกมที่พวกเขาเพิ่งเปิดบ้านชนะ แอสตัส วิลล่า ไป 2-0 ว่า
“ผมเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ความจริงจังมันจะหายไปประมาณ 1 หรือ 2 เปอร์เซ็นต์ คุณก็เห็นจากที่พวกเขาบอกก่อนเกมว่าจะพยายามเร่งจังหวะขึ้น” ซูเนสส์ กล่าวกับ Sky Sports
“มันยังมีอะไรหายไปเยอะมากในพื้นที่สุดท้าย ผมคิดว่าพวกเขาขาด ฟิร์มิโน่ ไป ลิเวอร์พูล เป็นทีมแชมป์โลก แชมเปี้ยนส์ลีก และ แชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ผมผิดหวังที่พวกเขาไม่เสริมศูนย์หน้าเข้ามาเพิ่ม”
“หากหนึ่งในสามประสานไม่ได้ลงสนาม แต่เป็น โอริกี้ คุณภาพมันจะตกลงไปมาก ผมคิดว่าพวกเขาคงไม่คิดจะทำแบบนั้นอีกแล้ว”
“ผมหวังว่าผมจะคิดผิด ผมหวังว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะซื้อใครสักคนเขามาสำหรับเวลาที่หนึ่งในสามคนนี้ไม่ได้ลงสนาม”
“ฟิร์มิโน่ เชื่อมทุกอย่างตั้งแต่หลังมาถึงหน้า เขาเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน”
ท๊อฟฟี่พร้อมร่วมวงไก่แย่ง ‘ฮอยเบิร์ก’ เติมกลาง
เอฟเวอร์ตัน พร้อมที่จะเดินหน้าแย่งตัว ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก กองกลาง เซาแธมป์ตัน มาร่วมทีม หลัง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ก็ให้ความสนใจอยู่
สัปดาห์นี้ คาร์โล อันเชลอตติ ปฏิเสธพูดถึงความสนใจในตัวดาวเตะวัย 24 ปี แต่เขาก็ยอมรับว่า ฮอยเบิร์ก เป็นนักเตะที่ดี
เซาแธมป์ตัน ต้องการค่าตัวของ ฮอยเบิร์ก ที่ประมาณ 35 ล้านปอนด์และเขาเหลือสัญญาอีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น
สเปอร์ส หวังที่จะยื่นข้อเสนอในแบบเงินบวกนักเตะ ซึ่งมีสิทธิ์เป็น ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ที่ตอนนี้โดนปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ เซาแธมป์ตัน
ทาง “นักบุญแดนใต้” อยากได้เงินเพียวๆมากกว่าและ เอฟเวอร์ตัน หวังฉวยโอกาสตอน “ไก่เดือยทอง” กำลังมีปัญหาทางด้านการเงินและตกลงดึงนักเตะเข้าสู่ถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ให้ได้
อย่างไรก็ตามยังมีสโมสรอื่นให้ความสนใจในตัวของแข้งทีมชาติเดนมาร์กอยู่เหมือนกัน
เขาย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาอยู่กับ เซาแธมป์ตัน ในปี 2016 ด้วยค่าตัวประมาณ 12.8 ล้านปอนด์และเคยทำหน้าที่กัปตันทีมด้วย ก่อนจะโดนริบปลอกแขนเมื่อเร็วๆนี้เพราะเรื่องสัญญาใหม่
ทุกคนรู้ แฟนบอลรู้ แต่ JK จะเอาด้วยไหม…
ผมว่าสิ่งที่ เดอะ ค็อป อยากเห็น ลิเวอร์พูล ทีมรักหลังได้แชมป์ไม่มีอะไรมากครับแค่เล่นให้สนุกเพราะความกดดันอะไรก็ไม่มีแล้ว มาตรฐานไม่ต้องเป๊ะแต่ก็อย่าให้มันห่างไกลจากทีมเดิมมากนัก
ยิ่งแพ้ แมนฯซิตี้ มาแบบอิ่มสบายท้อง 4 ลูกทำให้หลายคนอยากเห็นการ “ตื่นตัว” อะไรซักอย่างไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
แม้จะไม่บ่อยแต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่เคยเห็น “หงส์แดง” โรเตชั่นซึ่งอย่างที่ทุกคนทราบดีว่าตัวสำรองยังไงก็ทดแทนตัวจริงไม่ได้แต่เกมในครึ่งแรกกับ แอสตัน วิลล่า นี่อาการหนักมากครับ
แดนกลางไม่สามารถสร้างสรรค์หรือฝากฝังอะไรได้เลยซ้ำร้ายทั้ง อ็อกซ์เลด เชมเบอร์เลน กับ นาบิล เกอิต้า จ่ายบอลเสีย ทำให้เราได้เห็นการวางยาวของ TAA และ Vvd บ่อยมาก
เมื่อกลางเป็น “ง่อย” และ วิลล่า รับกันหลายชั้น ลิเวอร์พูลมาได้โอกาสยิงหนแรกก็ปาเข้าไปนาที 36 และตลอดทั้งครึ่งแรกโอกาสมีแค่ 2 ซึ่งน้อยกว่าทีมเยือนด้วยซ้ำ
การขาด โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ มันก็จะแนวๆนี้แหละครับ หน้าเก็บบอลไม่ได้ซึ่ง ดิวอร์ค โอริกี้ (ที่วันนี้มองไกลๆนึกว่า “ใต้ซือ” ฌิบริลล์ ซิสเซ่) แกก็เล่นตัวเป้าไม่เป็นอยู่แล้ว
เกมยิ่งเล่นยิงตัน เราจึงได้เห็น มาเน่ ลงมาต่ำล้วงบอลเป็นพักๆ เช่นเดียวกับ โอริกี้ ที่ท่านย้ายไปป่วนทุกฝั่งทั้งขวาและซ้ายแต่วันนี้ท่านไม่เอาอะไรเลยจริงๆ
ดังนั้นเหลือริมเส้นที่เป็นอาวุธหลักของเจ้าถิ่นแต่ ดีน สมิธ ทำการบ้านมาดีให้กลางมาช่วยอุดการโจมตีแต่ก็ต้องแลกมาด้วยจังหวะสวนกลับทีตัวมีน้อยขึ้นกันช้า
แล้ววันนี้ถือว่า ลิเวอร์พูล นี่โชคดีมากครับที่เกมสวนกลับของ วิลล่า ห่วยมาก ขนาดหนนึงบุกมา 4 ตัว “หงส์” มีแค่ 2 ยังไม่ได้จบ ไม่งั้นผมว่าสกอร์อาจไม่ใช่ 2-0 ของฝั่งเจ้าบ้านแน่ๆ
เยอร์เก้น คล็อปป์ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนต้องเปลี่ยนรวดเดียว 3 ตัวหลังผ่านไป 1 ชั่วโมงเอา เฮนโด้, ซีดุม และ บ๊อบบี้ ลงมาแทน โอริกี้, OX และ ฟาบินโญ่
และผ่านไป 10 นาทีหลังการเปลี่ยนแปลงประตูก็มาทันทีแม้ 3 ตัวสำรองจะไม่มีใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับลูกนี้เลยแต่มันก็เป็นการปรับการยืน ไม่มีตัวเกะกะ (ฮา)
ยังดีครับที่ เคอร์ติส โจนส์ เจ้าหนูดาวรุ่งที่เป็นตัวอนาคตดันลงมายิงหลังอยู่ในสนามได้ไม่ถึง 5 นาที อย่างน้อยก็ดับไฟร้อนของ เดอะ ค็อป ที่หงุดหงิดกับสภาพรุ่นพี่ในครึ่งแรกได้พอสมควร
การลงมาปักกลางของ “เฮนโด้” เกมเปลี่ยนเลยครับ นักเตะรอบๆรวมถึงริมเส้นรู้ตำแหน่งการยืนของตัวเองชัดเจน การวางยาวสลับสั้นถ่ายบอลมีมิติกว่ามี OX โดยฉับพลัน ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเห็นผลอะไรขนาดนี้
อีกจุดนึงที่ผมอยากติง โม ซาลาห์ คือเวลาโดนทำฟาว์ล (จะโดนจริงโดนนิดหน่อยก็ตาม) เลิกผายมือสองข้างแล้วแอ่นตัวล้มเถอะครับ
นอกจากมันไม่ดูเป็นธรรมชาติแล้วมันยิ่งเหมือน overraction ทั้งๆมีจังหวะนึงโดน ไทรอน มิงค์ ทำฟาว์ลจากด้านหลังจนน่าเป็นจุดโทษเลยด้วยซ้ำแต่ด้วยความที่ผู้ตัดสินเห็นอีตาโมทำแบบนี้บ่อยๆ(ตั้งแต่ครึ่งแรก) เขาก็เลยตัดสินใจง่ายครับ กลายเป็นภาพจำเสียเปรียบแบบช่วยไม่ได้
เอาล่ะครับ แม้เราจะพูดกันมาเยอะแล้วกับประเด็น “แข้งใหม่” แต่ท้ายที่สุดผมกับทุกๆคนก็อยากย้ำว่ารู้สึกเป็นห่วง “หงส์แดง” ซีซั่นหน้ามากขึ้นทุกทีหากไม่มีกำลังเสริมที่ดูมี dynamic มากกว่านี้
คงต้องเป็นการบ้านให้ JK ไปคิดเยอะๆว่าแกจะทำอย่างไรถึงทำให้นักเตะในทีมรู้สึกมีอะไรใหม่ๆให้ต่อสู้ให้ท้าทายต่อไป
คือเราก็ต้องไม่ลืมว่าแกมีแนวทางทำทีมชัดเจนมากเนื่องจาก 3 ตัวบนนี่แตะไม่ได้อยู่แล้ว ปัญหาคือนักเตะเก่งๆที่ยกระดับทีมได้ใครจะยอมมานั่งสำรองล่ะครับ แล้วถ้าซื้อตัวที่คุณภาพไม่ “แรง” แกก็ไม่ยอมเสียเงินอีก
รวมถึงแดนกลางที่ OX ชั้นยังห่างกับ demand ของทีมที่ช่วง 1-2 ปีสูงเกินกว่าตัวเขาไปแล้ว จึงน่าสนใจว่าข่าวลือกับ ธิอาโก้ มาแรงเหลือเกินในสัปดาห์นี้ (แม้หลายคนยังห่วงเรื่องอายุและประวัติการบาดเจ็บ) จะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหนแต่เชื่อว่าจะสร้าง impact แทบจะทันทีแน่นอนครับ
ครับ สมัยก่อนเล่นเพื่อสุขภาพคนดูก็เครียดเช้าเครียดเย็น ตอนนี้ความสำเร็จได้มาจนนับไม่ถ้วนก็ปวดหัวไปอีกแบบแฮะ…
อ่านต่อได้ที่ >>> https://www.german-roleplay.net/
เครดิตโดย >>> UFABETWINS