UFABETWINS คำกล่าวที่ว่า “สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” นั้นเป็นจริงหรือไม่ ?
คำกล่าวที่ว่า “สุนัขคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์” นั้นเป็นจริงหรือไม่ ? หากเราได้ทราบว่าสุนัขสามารถช่วยเหลือเราในเรื่องอะไรได้บ้าง นอกจากการอยู่เป็นเพื่อน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่การส่งเสียงเตือน การนำทาง ไปจนถึงการเปิดประตู หรือแม้กระทั่งการช่วยหยิบของ สุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อการช่วยเหลือสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่เราได้มากกว่าที่เรารู้
สุนัขที่ถูกฝึกมาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้พิการโดยเฉพาะ จะถูกเรียกว่า “สุนัขบริการ” ซึ่งจะมีความเชี่ยวชาญและความสามารถที่ต่างกันออกไป เพราะจะถูกฝึกมาให้สามารถช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพทางร่างกายได้อย่างหลากหลาย มีทั้งสุนัขนำทาง สุนัขช่วยคนหูหนวก และสุนัขบริการสำหรับผู้ที่สูญเสียอวัยวะ
และสำหรับนักกีฬาในการแข่งขันพาราลิมปิก น้องหมาก็เตรียมตัวมาพร้อมให้การช่วยเหลือ ไม่ต่างจากนักกีฬาที่เตรียมตัวมาแข่งเลย
สุนัขมีบทบาทในการช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพอย่างไร ? การฝึกสุนัขเพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้ทุพพลภาพเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ฝึกฝนกันอย่างไร ?
Main Stand ขออาสาเล่าให้ฟัง
GOOD COMPANY
สุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อให้การช่วยเหลือแก่ผู้ทุพพลภาพ มักจะถูกเรียกว่า “สุนัขบริการ” (Service Dog) ซึ่งเป็นสุนัขที่ผ่านการอบรมขั้นสูงมาแล้ว แม้จะไม่มีปรากฏหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่าเริ่มมีการฝึกสุนัขบริการกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ก็เชื่อกันว่าการฝึกสุนัขบริการนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ
ประวัติศาสต์ของสุนัขบริการฉบับสังเขป สามารถทำความเข้าใจได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย
อาทิ ภาพจิตกรรมฝาผนังในเมืองโบราณเฮอร์คิวเลเนียม ประเทศอิตาลี ที่มีรูปของสุนัขกำลังนำทางเจ้านายตาบอด โดยมือหนึ่งกำลังจูงสุนัขของตน ส่วนอีกมือถือไม้เท้านำทาง ต่อมาในราวศตวรรษที่ 16 ได้มีการค้นพบภาพในลักษณะเดียวกันในม้วนกระดาษจากประเทศจีน จึงสันนิษฐานได้ว่า สุนัขถูกฝึกให้ทำการช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพมาตั้งแต่ครั้งอดีตแล้ว
นอกจากสมมติฐานข้างต้น ยังมีประวัติศาสตร์ปากเปล่าที่ถูกเล่ากันมาเรื่อย ๆ ในช่วงสมัยปี 1750s ว่ามีการฝึกสุนัขบริการอีกครั้งในโรงพยาบาลของประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้พิการทางสายตาโดยเฉพาะ หลังจากนั้นในปี 1891 ได้มีการเผยแพร่คู่มือในการฝึกสุนัขบริการออกมาเป็นครั้งแรก โดยชาวออสเตรียชื่อ โยฮัน วิลเฮล์ม ไคลน์ ผู้ก่อตั้งสถาบันอบรบสำหรับคนตาบอด ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกแนวทางการศึกษาสำหรับผู้พิการทางสายตา โยฮันได้ลงความเห็นไว้ว่า สุนัขที่เหมาะกับการเป็นสุนัขบริการมากที่สุด ได้แก่สุนัขในตระกูลเชพเพิร์ดและพูดเดิ้ล
photo : familysearch
สุนัขบริการ เริ่มมีบทบาทอย่างจริงจังมากขึ้นหลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง เมื่อนายแพทย์ชาวเยอรมันที่ชื่อ “เกอร์ฮาร์ด สตอลลิ่ง” ได้เริ่มฝึกสุนัขบริการ เพื่อนำไปช่วยเหลือนายทหารผ่านศึกที่สูญเสียการมองเห็นไปจากการรบโดยแก๊สมัสตาร์ด แก๊สพิษที่มีสารประกอบทางเคมีเป็นกำมะถัน สุนัขที่ถูกฝึกมาจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นายทหารเหล่านี้ในการช่วยเดินนำทาง เพราะเหตุนี้ ประเทศเยอรมนีจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ฝึกสุนัขบริหารอย่างจริงจังเป็นชาติแรกของโลก
ความตั้งใจของเกอร์ฮาร์ดได้ถูกต่อยอดกลายมาเป็นโรงเรียนฝึกอบรมสุนัขบริการโดยเฉพาะในปี 1916 ที่เมืองโอลเดนเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ในโรงเรียนของเกอร์ฮาร์ดมีการฝึกสุนัขกว่า 4,000 กว่าตัว ทั้งสำหรับนายทหารผ่านศึกและผู้พิการที่เป็นพลเรือนทั่วไป
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ในทศวรรษ 1990s จึงได้มีการฝึกสุนัขบริการอย่างเป็นทางการ จากคำนิยามของกฎหมายสิทธิพลเมืองที่ห้ามเลือกปฏิบัติแก่ผู้ทุพพลภาพของสหรัฐอเมริกา (Americans with Disabilities Act) ในปี 1990 ได้มีการระบุคำนิยามของสุนัขบริการเอาไว้ว่า เป็นสุนัขที่ถูกฝึกมาเพื่อช่วยงานและช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพ โดยการฝึกสุนัขบริการ ไม่จำเป็นต้องฝึกโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ แต่เจ้าของสุนัขก็สามารถฝึกได้เองเช่นกัน
สุนัขบริการได้อยู่ช่วยเหลือมนุษย์และผู้ทุพพลภาพมาตั้งแต่อดีต แต่รู้หรือไม่ว่า สุนัขบริการยังมีบทบาทสำคัญในวงการกีฬา โดยในการแข่งขัน พาราลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ สุนัขบริการ ก็เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะช่วยให้นักกีฬาใช้ชีวิตได้ง่ายยิ่งขึ้น
คลิกเลย >>> https://www.ufabetwins.com/
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล